โมดูลเครือข่าย หรือ Transceiver เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ใช้ในการส่งและรับสัญญาณข้อมูลผ่านเส้นใยแก้วนำแสงหรือสายทองแดงในระบบเครือข่าย โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและความเร็วในการส่งข้อมูลที่หลากหลาย
1. โมดูล SFP (Small Form-factor Pluggable)
- ขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีพื้นที่จำกัด
- ความเร็ว: รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุด 1Gbps
- การใช้งาน: ใช้ในอุปกรณ์เครือข่ายทั่วไป เช่น สวิตช์, เราเตอร์, และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ
2. โมดูล SFP+
- ความเร็วสูงกว่า: รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps
- ขนาด: มีขนาดเท่ากับโมดูล SFP
- การใช้งาน: ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลสูงขึ้น เช่น เซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ และเครือข่าย 10 Gigabit Ethernet
3. โมดูล XFP (10 Gigabit Small Form-factor Pluggable)
- ความเร็วสูง: รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps
- ขนาด: ใหญ่กว่า SFP เล็กน้อย
- การใช้งาน: ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วสูงและมีพื้นที่ติดตั้งเพียงพอ
4. โมดูล QSFP+ (Quad Small Form-factor Pluggable Plus)
- ความเร็วสูงมาก: รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุด 40Gbps หรือ 10Gbps x 4 ช่อง
- ขนาด: เล็กกว่า XFP
- การใช้งาน: ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วสูงมาก เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์, เครือข่าย 40 Gigabit Ethernet
5. โมดูล QSFP28
- ความเร็วสูงสุด: รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุด 100Gbps หรือ 25Gbps x 4 ช่อง
- ขนาด: เท่ากับ QSFP+
- การใช้งาน: ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วสูงสุดสำหรับการใช้งานที่ต้องการแบนด์วิดท์มาก เช่น เครือข่าย 100 Gigabit Ethernet
6. DAC (Direct Attach Copper)
- ไม่มีส่วนประกอบทางแสง: ใช้สายทองแดงในการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างอุปกรณ์
- ความเร็วสูง: รองรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1Gbps ถึง 100Gbps
- การใช้งาน: ใช้ในระยะทางสั้นๆ ภายในห้องหรือระหว่างตู้ rack
7. AOC (Active Optical Cable)
- ใช้เส้นใยแก้วนำแสง: มีส่วนประกอบของเลเซอร์และตัวรับสัญญาณ
- ความเร็วสูง: รองรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1Gbps ถึง 400Gbps
- การใช้งาน: ใช้ในระยะทางที่ไกลกว่า DAC และมีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
